กระจกลามิเนต (Laminated Glass) ไปใช้งานภายนอกอาคาร หลังจากใช้ไปนานๆ คุณอาจสังเกตเห็นว่ากระจกมีรอยหยักระหว่างบานกระจก ลักษณะของปัญหาประเภทนี้มักเกิดกับกระจกมีศัพท์เรียกว่า delamination หรือการแยกชั้นของกระจกปัญหาเหล่านี้มีที่มาที่ไป มีวิธีป้องกันหรือแก้ไขหรือไม่?
กระจกลามิเนต หรือ glass laminate แยกตัวเมื่อใช้งานภายนอกไปนานๆเกิดจากสาเหตุอะไร
กระจกลามิเนต ฟิล์ม PVB นี้เป็นส่วนประกอบที่ยังมีข้อเสียซ่อนอยู่ ใช่ ฟิล์มมีความสามารถในการดูดซับความชื้นได้ดีเมื่อนำกระจกไปใช้กลางแจ้ง เป็นผลให้ความชื้นในอากาศจะซึมออกจากขอบ glass laminate และสัมผัสกับฟิล์ม PVB โดยตรง การยึดเกาะของชั้นฟิล์มจะลดลงไปเรื่อยๆ จนกว่าฟิล์ม PVB จะประกบระหว่างกระจกสองชิ้น มันจะค่อยๆ แยกออกจากกระจกและสามารถมองเห็นคลื่นได้อย่างชัดเจน
Delamination การแยกตัวของกระจกที่เกิดจากการใช้งานกลางแจ้ง
การหลุดร่อนของกระจกสำหรับใช้ภายนอกอาคารส่วนใหญ่เกิดขึ้นใกล้กับขอบกระจก ,บริเวณรอยตัดหรือขอบที่มีรอยปรุเชื่อมต่อกับข้อต่อในลักษณะต่าง ๆ ปัญหาดังกล่าวจะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นหลังจากใช้งานไประยะหนึ่ง (เริ่มตั้งแต่ 1 หรือ 2 ปี) สาเหตุหลักมาจาก กระจกลามิเนต ทำจากกระจกนิรภัยเทมเปอร์ ( กระจกนิรภัยเทมเปอร์) หรือกระจกธรรมดา (กระจกอบอ่อน / กระจกโฟลต) ทำจาก 2 แผ่นขึ้นไป โดยมีฟิล์มประกบระหว่างแผ่นกระจกเพื่อสร้างชั้น “ลามิเนต”
วิธีป้องกัน และแก้ปัญหา
นำกระจกไปใช้ภายนอกหรือบริเวณที่เปียกชื้น เพื่อป้องกันปัญหากระจกหลุดล่อนควรเสริมกรอบที่ขอบ กระจก tempered glass หรือหาช่องทางปิดขอบกระจกไม่ให้ชั้นฟิล์ม PVB สัมผัสกับอากาศภายนอกหรือเคลือบ ต้องใช้กระจกไม่งั้นชนิดอื่นใช้ไม่ได้ควรเปลี่ยนกระจกเป็นฟิล์ม SentryGlas ซึ่งเหนือกว่าฟิล์ม PVB ในหลายด้าน แน่นอนว่าราคาจะสูงกว่า สามารถใช้งานในพื้นที่เปียกชื้นได้ตลอดเวลาโดยไม่กระทบต่อการยึดเกาะระหว่างฟิล์มกับกระจก
กระจก ( Laminated Glass )
กระจกตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปเชื่อมต่อกันโดยติดฟิล์ม PVB ที่ยืดหยุ่นได้ ผ่ากลางและยึดแผ่นกระจกเข้าด้วยกัน กระจกประเภทนี้เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงและปลอดภัยสูงหรือมีการสั่นสะเทือนสูง นอกจากนี้ กระจกลามิเนต ยังสามารถลดอันตรายจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง อันตรายต่อดวงตาและช่วยลดเสียงได้ดีจึงเหมาะสำหรับใช้ในบริเวณที่ต้องการความเงียบเป็นส่วนตัวและปลอดภัย
กระจกฉนวนกันความร้อน ( Insulated Glass )
วิธีการคือเอาแก้ว 2 ชิ้นมาประกบกัน ข้อดีของกระจกกรอบอลูมิเนียมแบบนี้คือจะช่วยประหยัดพลังงานและความร้อนได้เป็นอย่างดี ทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคารป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากภายนอก และป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกอาคารได้เป็นอย่างดี กระจกฉนวน ยังช่วยเราประหยัดพลังงานทางอ้อมอีกด้วย เนื่องจากกระจกช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารได้ จึงช่วยให้เครื่องปรับอากาศไม่ทำงานหนักเกินไป และช่วยประหยัดค่าไฟในระยะยาวได้มาก นี่คือกระจกที่มีประโยชน์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
glass lamination คืออะไร มีกี่ประเภท และมีคุณสมบัติข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
glass lamination ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2446 โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศส (พ.ศ. 2421-2473) โดยได้รับแรงบันดาลใจจากอุบัติเหตุในห้องทดลองของเขา มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาทำขวดแก้วเคลือบด้วยไนโตรเซลลูโลสตก เมื่อขวดแก้วแตกแทน เขาพบว่ามันไม่แตกเหมือนแก้วทั่วไป อย่างไรก็ตาม การค้นพบของเขาไม่ได้ถูกนำไปใช้จนกระทั่งปี 1909 เบเนดิกต์จดสิทธิบัตรและก่อตั้ง Société du Verre Triplex ในปี 1911 ซึ่งคิดค้นกระจกเคลือบพลาสติกเพื่อลดแสงสะท้อน ความเสียหายจากอุบัติเหตุ การเคลือบแบบนี้ทำให้ราคาพลาสติกเคลือบแก้วในยุคนั้นค่อนข้างสูง
ความเป็นมา และวิวัฒนาการของกระจกลามิเนต (Laminated Glass)
ต่อมาในปี 1902 บริษัท Le Carbone ของฝรั่งเศสได้รับสิทธิบัตรในการเคลือบวัตถุที่เป็นแก้วด้วยเซลลูลอยด์เพื่อป้องกันการบิ่นหรือแตก
ในขณะเดียวกัน ในปี 1905 จอห์น โครวูด ทนายความในสวินดอน-วิลต์เชียร์ ประเทศอังกฤษ ได้จดสิทธิบัตร กระจกลามิเนต สำหรับใช้เป็นกระจกบังลม และชั้นกระจกของกระจกบังลมเคลือบด้วยน้ำมันสนหรือยาหม่องน้ำมันสน ซึ่งเป็นน้ำมันสนชนิดหนึ่งที่ทำจากเรซินของต้นเฟอร์อเมริกาเหนือ (abies balsamea) มันจะไม่ตกผลึกหลังจากการอบแห้งและมีอายุการใช้งานยาวนาน และมีคุณสมบัติทนความร้อน ดังนั้นใน พ.ศ. 2449 จึงได้ก่อตั้งบริษัท Safe Motor Screen เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตน
ตั้งแต่นั้นมา กระบวนการผลิตก็พัฒนาไปหลายครั้ง จนสามารถผลิตกระจกลามิเนตผ่านชั้นกระจกสองชั้นได้ หรือมากกว่านั้น อบด้วยความร้อน ประกบระหว่างแก้วด้วยโพลีไวนิล บิวทิรัล หรือเอทิลีน ไวนิล อะซิเตต หรือ EVA
แล้วนำไปผ่านกระบวนการรีดด้วยลูกกลิ้งเพื่อให้ฟิล์ม PVB ติดกับ Menu กระจก tempered glass หลังจากนั้น กระจกที่ถูกผูกมัดจะถูกอบในเตาอบที่ควบคุมอุณหภูมิ และแรงดันที่เหมาะสมเพื่อไล่อากาศออกให้หมด ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่พัฒนาต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้
กระจก(Laminated Glass) คืออะไร…?
กระจกเป็นกระจกนิรภัยชนิดหนึ่ง เมื่อแตกแล้วเศษแก้วจะเกาะติดกันโดยไม่หลุด เพราะมีแผ่นฟิล์มบาง ๆ ติดอยู่ระหว่างแผ่น กระจก นิรภัย เท ม เปอร์ เหมือนใยแมงมุม นำกระจกนิรภัย (Tempered Safe Glass) หรือกระจกธรรมดา (Annealed Glass / Floated Glass) สองชิ้นขึ้นไปมาประกบกันโดยมีฟิล์มกั้นระหว่างกัน ดังนั้นเราจึงเรียกกระจกที่ผ่านการบำบัดว่ากระจก
ส่วนประกอบของกระจก (Laminated Glass Raw Material)
กระจกลามิเนต เป็นกระจกนิรภัยเทมเปอร์ หรือประกบกระจกธรรมดา 2 ชิ้นขึ้นไปด้วยฟิล์ม PVB (โพลีไวนิลบิวทิรัล) หรือ EVA (เอทิลีนไวนิลอะซีเตต) ระหว่างแผ่นกระจกเพื่อ “เคลือบ” เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย และตอบสนองการใช้งานในด้านความปลอดภัยสูงกว่ากระจกประเภทอื่นๆ จากนั้นใช้ลูกกลิ้งเพื่อทำให้ฟิล์ม PVB ติดกับกระจก หลังจากนั้น กระจกที่ถูกผูกมัดจะถูกทำให้แห้งในเตาอบ Auto Clave ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ และแรงดันที่เหมาะสมเพื่อไล่อากาศออกให้หมดซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของกระบวนการผลิต
คุณสมบัติเด่นของกระจก
– เมื่อกระจกเสียหายจนแตก เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่นลงมา นี้ช่วยลดอันตราย
– ช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกและเป็นฉนวนกันเสียงได้ดีกว่ากระจกทั่วไป
– ช่วยป้องกันความร้อนได้ดี และป้องกันรังสียูวีได้มากกว่า 90%
– ทนต่อแรงดันลมสูงและทนต่อแรงกระแทกและช่วยป้องกันการโจรกรรมและการบุกรุก
– สามารถทาสีได้ตามต้องการ
กระจก ลามิเนต Laminated Glass
Laminated Glass
กระจก ลามิเนต เป็นกระจกรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการนำกระจกตั้งแต่ 2 แผ่นขึ้นไปมาประกบกันโดยมีฟิล์มนิรภัย PVB (โพลีไวนิลบิวทีรัล) คั่นกลาง เพื่อให้กระจกมีความทนทานและตอบสนองต่อแรงกระแทกมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยสูง โดยทั่วไป หากเป็นกระจกเทมเปอร์ธรรมดา เมื่อแตกจะมีลักษณะเหมือนเมล็ดข้าวโพด แต่สำหรับกระจกจะแตกต่างออกไป ถ้าแตกก็ยังหลุดล่อนเหมือนเดิม ฟิล์มที่ใช้เป็นกาวที่ป้องกันอันตรายจากเศษแก้วที่ร่วงหล่น
กระจกที่จะนำมาทำเป็น กระจกลามิเนต มีการใช้งานที่หลากหลาย กระจกนิรภัย, กระจกโฟลตใส, กระจกสะท้อนแสง และสามารถเลือกความหนาได้ตามความต้องการของผู้ใช้
คุณสมบัติเฉพาะของกระจก
1. หากมีการแตก เศษกระจกจะไม่ร่วงหล่น เศษกระจกยังคงถูกยึดไว้ด้วยแผ่นฟิล์มระหว่างแผ่น กระจก tempered คล้ายใยแมงมุมเพื่อลดความเสี่ยงจากการแตกของกระจก ที่สำคัญคือ ไม่ว่าวัตถุอะไรมากระทบก็ไม่สามารถทะลุผ่านได้เพราะมีพังผืดรองรับไว้
2.วัตถุอะไรมากระทบก็ไม่สามารถทะลุผ่านได้ เพราะยังมีชั้นฟิล์มรองรับอยู่ จึงช่วยป้องกันการโจรกรรมกระจกแตกได้อย่างดี
3. เอฟเฟกต์ฉนวนกันเสียงดีกว่ากระจกธรรมดา
4. อายุการใช้งานยาวนาน ไม่ลอกล่อน
5. ป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้มากกว่า 99%
6.สามารถสร้างสรรค์สีสันหรือลวดลายต่างๆได้ตามความต้องการ
กระจกลามิเนต เหมาะกับงานประเภทไหน?
1. สำหรับงานตกแต่งภายใน เช่น ฝ้าเพดาน พื้น ผนังห้อง ผนังม่านกระจก บานประตู ฯลฯ รวมถึงทำตู้ปลาขนาดใหญ่
2.ใช้เป็นกระจกนิรภัยตกแต่งภายนอก กันขโมย และช่วยเก็บเสียง
3.ใช้ทำราวและหน้าต่าง
4. ใช้เป็นกระจกตกแต่งอาคารสูง
5. ใช้ในการผลิตกระจกรถยนต์หรือกระจกทะเล
6. ใช้เป็นโต๊ะประชุม หรือแผนกต้อนรับ
ช่องทางการติดต่อ
เพื่อส่งมอบงานที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการของลูกค้า ให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ส่งงานตรงต่อเวลา สวยงาม และให้ความสำคัญกับบริการหลังการติดตั้ง หน้าต่างกระจก ผู้เชี่ยวชาญด้านกระจกที่คุณสามารถวางใจได้แน่นอน สามารถติดต่อได้แล้ววันนี้ที่ FB: กระจก ประตู หน้าต่าง อลูมิเนียม ติดตั้งประตู-หน้าต่าง Windoor Glass Design หรือ LINE ID : @windoor-group ได้ตลอด 24 ชม.